ห้องอาหารจีน ลก หว่า ฮิน บุฟเฟต์ติ่มซำ ชั้น 2 โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ สยามสแควร์เป็นศูนย์รวมของอาหารเลิศรสในสไตล์ต้นตำรับของอาหารจีนแบบ เซี่ยงไฮ้ เสฉวน กวางตุ้ง สิงคโปร์ และฮ่องกง ส่วนติ่มซำนั้น แม้จะมีหลายตำรับจากจีนแต่ละท้องถิ่น แต่ทั่วโลกนิยม “ติ่มซำกวางตุ้ง” เพราะมีความร่วมสมัยมากที่สุด
เดือนนี้ ... อยู่ในระหว่างการปรับเปลี่ยนเมนูติ่มซำพอดีเลยถือโอกาสแนะนำคุณก่อนใคร ด้วยบรรยากาศของร้านที่ตกแต่งสไตล์ตะวันออก เน้นสีโทนดำและทอง สร้างความอบอุ่นและหรูหราให้กับผู้มาเยี่ยมเยือนและทักทายอาหาร มีทั้งห้องรวมและห้องส่วนตัวให้คุณเลือก
ลิ้มรสความอร่อยกับเมนูติ่มซำให้เลือกทานเต็มอิ่มในมื้อกลางวันกว่า 30 รายการ และ ปรับบางรายการออกและเข้าใหม่อีก 16 รายการเพื่อสร้างความแปลกใหม่ ไม่ซ้ำซาก จำเจกับของเดิมๆ ในราคา 420 บาทแถมซุปเกี๊ยวหูฉลาม 1 ถ้วย
“ยอมลงทุนมากหน่อยได้กำไรน้อยหน่อย โดยใช้เฉพาะกุ้ง ต้องคัดเลือกเอง ถึงจะได้ของที่สดใหม่ ไว้คอยให้บริการลูกค้า” ประสิทธิ์ จริยโยธิน หัวหน้าเชฟอาหารจีน แห่งโรงแรมโนโวเทล มานั่งบอกเล่าถึงกว่าจะมาเป็นติ่มซำที่แสนอร่อย เขาชำนาญเรื่องอาหารจีนและสั่งสมประสบการณ์มานาน พิถีพิถันทุกขั้นตอนในการทำทำอาหารจีน และติ่มซำที่แสนอร่อย
“ประการแรก ผมให้ความสำคัญกับการใช้วัตถุดิบ เลือกของดีเพื่อให้ได้รสชาติและอาหารที่มีคุณภาพให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ อย่างซอสที่ใช้ในการปรุงติ่มซำ ผมเลือกใช้ซอสเป่าฮื้อในการปรุงรสติ่มซำ ให้มีความอร่อยกว่าที่อื่น ให้รสชาติที่แตกต่างกัน ให้กลิ่นหอมในการดึงรสชาติ”
ส่วนประกอบที่สำคัญของติ่มซำอยู่ที่กุ้ง ที่ห้องอาหารลก หว่า ฮินจะเลือกสั่งกุ้งแชบ้วย ราคากิโลละ 600 บาท ใช้เนื้อหมูเกรดเอ บางอย่างจะสั่งจากเมืองนอก อาทิ กุนเชียง - ผักคะน้าจะสั่งจากฮ่องกง เพราะเป็นกุนเชียงที่รสชาติกลมกล่อมกว่าที่เมืองไทย ติดมันนิดๆ
ส่วนผักคะน้าฮ่องกง จะไม่มีใยต่างจากคะน้าไทย ราคากิโลกรัมละ 250 บาท
“ของทะเลทุกประเภทจะใช้แต่ของเป็น ถ้าตัวไหนตายจะคัดออก ไม่นำมาทำอาหาร ไม่อยากให้ลูกค้าที่มากินรู้สึกไม่ดีกับกินอาหารที่รสชาติไม่ได้เรื่อง … ส่วนติ่มซำที่นี่ไม่ใส่ชูรส ไม่มีสารบอแร็กซ์ ไม่ใส่น้ำประสานทอง แต่มีเคล็ดลับที่จะทำให้รสชาติของติ่มซำอร่อย”
ห้องอาหารจีน ลก หว่า ฮิน โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ สยามสแควร์ โทร. 0-2255-6888
บุฟเฟต์มื้อกลางวัน( เวลา 11.30-14.30 น). ท่านละ 420 บาท ++ แถมซุปเกี้ยวหูฉลาม 1 ถ้วย
Set Lunch ท่านละ 520 บาท ++ ติ่มซำไม่จำกัดจำนวน,ซุปเกี้ยวหูฉลาม 1 ถ้วย อาหารหลัก 1 จาน (ข้าวผัดหอยเชลล์เอ็กซ์โอ,ข้าวผัดหมูแดง,โกยซีหมี่,ก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ๊ว) ของหวาน 1 อย่าง (บัวลอยน้ำขิง,พุดดิ้งมะม่วง,ผลไม้รวม)
มื้อค่ำ (18.30 – 22.30 น.) อาหารตามสั่ง ส่วนติ่มซำราคาเข่งละ 40 บาท
retro ติ่มซำ 16 รายการ
ฮะเก๋าตัวกุ้ง , ฮะเก๋ากระต่าย, ฮะเก๋าปลาทอง, เกี๊ยวหูฉลาม, นกหงส์เหิน,ฮะเก๋าคำโต,จีบหยก 3 สี,กระเพาะปลาสดน้ำแดง,เยื่อไผ่น้ำแดง,กุ้งมะนาว, บรอกโคลีน้ำมันหอย,เห็ดสองสี,ผักกาดแก้วน้ำมันหอย,เนื้อปลาสองสี,เบคอร์ นครีมสลัด,ขนมแครอท
ติ่มซำ ภาษาจีนกลางอ่านว่า “เตี่ยนซิน” แต่คนไทยคุ้นเคยและเรียกตามภาษาจีนกวางตุ้ง เป็นวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวกวางตุ้ง นิยมกินกับน้ำชาร้อนๆ สูตรดั้งเดิมนั้น กินกันแบบจืดๆ เพื่อให้ได้รสชาติของอาหารแท้ๆ แต่สำหรับคนไทยที่ชอบความจัดจ้านก็ก็เลยมีเครื่องปรุงรสให้จิ้มกันแบบหลาย ถ้วย ไม่มีผิด ไม่มีถูก เลือกได้ตามความชอบ
ช่วง เวลาติ่มซำของคนไทยจะเริ่มเมื่อ 11 โมงเช้าจนถึงบ่าย 2 โมง ชาวจีนกวางตุ้งและฮกเกี้ยน บางครัวเรือนนิยมรับประทานเป็นอาหารเช้า เนื่องจากเบา โปร่งและสบาย เหมือนอาหารว่าง และเป็นวัฒนธรรมชั้นสูงของคนกวางตุ้งในการต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ
รับประทานแบบถูกต้องตามหลัก ต้อง ค่อยๆสั่ง ค่อยๆคืบแล้วกิน จิบน้ำชาร้อนๆระหว่างสนทนาและไม่รีบร้อน เมื่อกินติ่มซำแล้วจะตามด้วยอาหารหลัก อาจจะเป็นปลาเต้าซี่ราดหน้า หมี่เกี๊ยวน้ำ ฯลฯ
วัฒนธรรมการละเลียดในมื้อบุฟเฟต์จะเกิดขึ้นได้อย่างไร !? ในเมื่อมื้อนี้ต้อง “อิ่มเกินคุ้ม”
แนะนำว่า
บุฟเฟต์ติ่มซำมื้อนี้ ควรเลือกกินเมื่อมาร้อนๆ เริ่มด้วยของนึ่งก่อนเป็นลำดับแรก ตามด้วยของทอด เพราะถ้าคุณเริ่มด้วยของทอ ดจะเลี่ยนและกินได้ไม่ถึงยก 3 จิบกับน้ำชาหรือเก๊กฮวยร้อน (น้ำตาลน้อยๆ) ดีที่สุด
เตรียมตัวก่อนมื้อบุฟเฟต์
1. ควรงดอาหารอย่างน้อย 6 – 8 ชั่วโมงเพื่อเตรียมห้องเสบียงสำหรับถมอาหารไม่จำกัดจำนวน
2. ถ้าเป็นบุฟเฟต์มื้อกลางวัน ควรงดอาหารเช้า , บุฟเฟต์มื้อค่ำควรงดมื้อหนักยามกลางวัน หรือมื้อปกติไม่ควรเป็นอาหารที่ย่อยยาก
3. สวมเสื้อผ้าที่เบา โปร่งและสบาย ไม่ควรเป็นประเภทเสื้อรัดรูป ตีเกร็ด รัดติ้ว หรือเสื้อยืดรัดรูป เพื่อเตรียมการขยายของกระเพาะและพุง จะทำให้คุณรู้สึกอึดอัดน้อยเมื่ออาหารมื้อนี้ตกถึงท้อง
4. ควรตรงเวลาสำหรับอาหารบุฟเฟต์ ทางที่ดีควรสำรวจเวลาแน่ชัดของอาหารบุฟเฟต์ของโรงแรมนั้นๆไว้ ไม่งั้น ... ช้าเพียงก้าวหรือ 2 ก้าวจะกลายเป็นอาหารเหลือจากคนอื่นทันที และอาหารบางอย่าง โดยเฉพาะของดีและแพงนั้น มักจะไม่มีรอบที่ 2
5. นั่งในท่าหลังตรง ไม่ควรนั่งตามสบายและทิ้งตัวลงไปกองกับเก้าอี้ ทั้งนี้เพื่อให้การลำเลียงอาหารผ่านสะดวก ไม่ติดขัด เพราะนั่นหมายถึงการเพิ่มปริมาณอาหารมื้อใหญ่สำหรับมื้อนี้
6. รับประทานบุฟเฟต์ควรจะแบ่งออกเป็น 3 ยกหลัก
ยกแรก เบาแต่แพง เช่นกุ้ง ปลาแซลมอน ฯลฯ งดน้ำอัดลมและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เด็ดขาด น้ำเปล่าหรือน้ำชาดีที่สุด แต่ควรจะจิบเท่านั้น ไม่ใช่ดื่มน้ำมากอย่างกับอูฐในท้องทะเลทราย ไม่งั้นมื้อนี้ขาดทุน
อาหารหนักขึ้นมาหน่อย แต่เน้นข้าวหรือพวกอาหารเส้นให้น้อย เพราะอาหารประเภทนี้ล้วนแต่ตัดเส้นทางลำเลียงทั้งนั้น กินข้าวเหมือนแมวดม หรือจะนับเมล็ดกินก็ไม่มีใครว่า และบรรดาผักเพื่อคั่นไม่ให้ท้องอืดเกินไป
ยกสุดท้ายตบหนักๆเลย !! ท่องจำไว้ขึ้นใจ “กินให้คุ้ม”
ระหว่างยก 2 ควรจะลุกเดินบ้าง เช่นไปห้องน้ำ หรือเดินเตะถ่วงเวลาสักรอบหรือสองรอบ เพื่อช่วยลำไส้ในการย่อย หรือถ้าในมื้อ 3 เกิดอาการ “กินจนจุก” ต้องมียาช่วยย่อย หรือช่วยลดกรดในกระเพาะ อันนี้ต้องมีติดกระเป๋าไว้ ถ้าเห็นว่าเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ลุยต่อทันที มื้อนี้ควรสนทนาให้น้อยที่สุด ไม่งั้นอิ่มก่อนไม่รู้ด้วย.